เมนู

11. ปฐมนิททสสูตร


[39] ครั้งนั้นแล เวลาเช้า ท่านพระสารีบุตรนุ่งแล้ว ถือบาตร
และจีวร เข้าไปบิณฑบาตยังกรุงสาวัตถี ครั้งนั้น ท่านคิดว่า เราจะ
เที่ยวไปบิณฑบาตยังกรุงสาวัตถีก็ยังเช้านัก อย่ากระนั้นเลย เราควร
เข้าไปยังอารามของพวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชกเถิด ครั้งนั้น ท่าน
พระสารีบุตรเข้าไปยังอารามของพวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชก ได้
สนทนาปราศรัยกับพวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชก ครั้นผ่านการ
ปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
ก็สมัยนั้น พวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชกกำลังนั่งประชุมสนทนากันว่า
ท่านมีอายุทั้งหลาย ท่านผู้ใดผู้หนึ่งประพฤติพรหมจรรย์บริสุทธิ์
บริบูรณ์ครบ 12 ปี ควรจะเรียกว่า ภิกษุผู้นิททสะ ทานพระสารีบุตร
ไม่ยินดี ไม่คัดค้านคำกล่าวของพวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชกเหล่านั้น
ครั้นแล้วลุกจากที่นั่งหลีกไปด้วยตั้งใจว่า เราจะทั่วถึงเนื้อความ
แห่งภาษิตนี้ในสำนักของพระผู้มีพระภาคเจ้า ลำดับนั้น ท่านพระ
สารีบุตรเที่ยวไปบิณฑบาตในกรุงสาวัตถีแล้ว กลับจากบิณฑบาต
ในเวลาปัจฉาภัต เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวาย
อภิวาทแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ได้กราบทูลว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญขอประทานพระวโรกาส เวลาเช้า ข้าพระองค์
นั่งแล้ว ถือบาตรและจีวร เข้าไปบิณฑบาตยังกรุงสาวัตถี ข้าพระองค์
คิดว่า เราจะเที่ยวบิณฑบาตในกรุงสาวัตถีก็ยังเข้านัก อย่ากระนั้นเลย
เราควรเข้าไปยังอารามของพวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชก ลำดับนั้น

ข้าพระองค์เข้าไปยังอารามของพวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชก ได้
สนทนาปราศรัยกับพวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชก ครั้นผ่านการ
ปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
ก็สมัยนั้น พวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชกกำลังนั่งประชุมสนทนากันว่า
ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ท่านผู้ใดผู้หนึ่งประพฤติพรหมจรรย์บริสุทธิ์
บริบูรณ์ครบ 12 ปี ควรเรียกว่า ภิกษุผู้นิททสะ แต่ข้าพระองค์
ไม่ยินดี ไม่คัดค้านคำกล่าวของพวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชกเหล่านั้น
ครั้นแล้วลุกจากอาสนะหลีกไปด้วยตั้งใจว่า เราจะรู้ทั่วถึงเนื้อความ
แห่งภาษิตนี้ในสำนักของพระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
พระองค์อาจหรือหนอ เพื่อทรงบัญญัติภิกษุนิททสะ ด้วยเหตุเพียง
การนับพรรษาอย่างเดียว ในธรรมวินัยนี้.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนสารีบุตร จะไม่มีใคร ๆ
อาจเพื่อบัญญัติภิกษุผู้นิททสะด้วยเหตุเพียงนับพรรษาอย่างเดียว
ในธรรมวินัยนี้ ก่อนสารีบุตร วัตถุแห่งนิททสะ 7 ประการนี้
เรากระทำไห้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ประกาศแล้ว นิททสะวัตถุ 7
ประการเป็นไฉน ดูก่อนสารีบุตร ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มีฉันทะกล้า
ในการสมาทานสิกขา และมีความรักอย่างลึกซึ้งในการสมาทาน
สิกขาต่อไป 1 มีฉันทะกล้าในการฟังธรรม และมีความรักอย่างลึกซึ้ง
ในการฟังธรรมต่อไป 1 มีฉันทะกล้าในการกำจัดความอยาก และมี
ความรักอย่างลึกซึ้งในการกำจัดความอยากต่อไป 1 มีฉันทะกล้า
ในการหลีกออกเร้น และมีความรักอย่างลึกซึ้งในการหลีกออกเร้น

ต่อไป 1 มีฉันทะกล้าในการปรารภความเพียร และมีความรักอย่าง
ลึกซึ้งในการปรารภความเพียรต่อไป 1 มีฉันทะกล้าในสติเครื่อง
รักษาตัว และมีความรักอย่างลึกซึ้งในสติเครื่องรักษาตัวต่อไป
มีฉันทะกล้าในการแทงตลอดด้วยทิฐิ และมีความรักอย่างลึกซึ้ง
ในการแทงตลอดด้วยทิฐิต่อไป 1 ดูก่อนสารีบุตร วัตถุแห่งนิททสะ
7 ประการนี้แล ถ้าประพฤติพรหมจรรย์บริสุทธิ์บริบูรณ์ครบ 12 ปี
ก็ควรจะเรียกได้ว่า ภิกษุผู้นิททสะ ถ้าประพฤติพรหมจรรย์บริสุทธิ์
บริบูรณ์ครบ 24 ปี ก็ดี... 36 ปีก็ดี... 48 ปีก็ดี ก็ควรจะเรียกได้ว่า
ภิกษุนิททสะ.
จบ ปฐมนิททสสูตรที่ 11

12. ทุติยนิททสสูตร


[40] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ โฆสิตาราม
ใกล้กรุงโกสัมพี ครั้งนั้น เป็นเวลาเช้า ท่านพระอานนท์นุ่งแล้ว
ถือบาตรและจีวรเข้าไปบิณฑบาตยังกรุงโกสัมพี ครั้งนั้นท่านคิดว่า
เราจะเที่ยวบิณฑบาตในกรุงโกสัมพี ก็ยังเช้านัก อย่ากระหาย
เราควรเข้าไปยังอารามของพวกอัญเดียรถีย์ปริพาชกเถิด ลำดับ
นั้นแล ท่านพระอานนที่เข้าไปยังอารามของพวกอัญญเดียรถีย์
ปริพาชก ได้สนทนาปราศรัยกับพวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชก ครั้น
ผ่านการปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วน
ข้างหนึ่ง ก็สมัยนั้น พวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชกกำลังนั่งประชุม
สนทนากันว่า ท่านมีอายุทั้งหลาย ท่านผู้ใดผู้หนึ่งประพฤติ
พรหมจรรย์บริสุทธิ์บริบูรณ์ครบ 12 ปี ควรจะเรียกว่า ภิกษุ
ผู้นิททสะ ท่านพระอานนท์ไม่ยินดี ไม่คัดค้านคำกล่าวของพวก
อัญญเดียรถีย์ปริพาชกเหล่านั้น ครั้นแล้ว ลุกจากอาสนะหลีกไป
ด้วยตั้งใจว่าเราจะรู้ทั่วถึงเนื้อความแห่งคำกล่าวของพวกอัญญ-
เดียรถีย์ปริพาชก ในสำนักของพระผู้มีพระภาคเจ้า ลำดับนั้น
ท่านพระอานนท์ได้เที่ยวบิณฑบาตในกรุงโกสัมพี กลับจากบิณฑบาต
ในเวลาปัจฉาภัต เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวาย
อภิวาทแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ได้กราบทูลว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอประทานพระวโรกาส เวลาเช้า ข้าพระองค์
นุ่งแล้วถือบาตรและจีวรเข้าไปบิณฑบาตยังกรุงโกสัมพี ข้าพระองค์